โครงสร้างฐานราก (ฟุตติ้ง)
- S.W.
- 30 เม.ย.
- ยาว 1 นาที

ฟุตติ้ง คืออะไร ?
ฟุตติ้งเป็นโครงสร้างฐานรากที่ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักจากเสาและโอนถ่ายไปยังดิน โดยทั่วไปทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete) และมีหลายประเภทตามลักษณะของอาคารและสภาพของดิน
ประเภทของฟุตติ้ง
1. ฟุตติ้งเดี่ยว (Isolated Footing)
o ใช้กับเสาที่รับน้ำหนักไม่มาก
o มักใช้กับบ้านขนาดเล็ก หรืออาคารที่มีเสาไม่หนาแน่น
o ข้อดี: ประหยัดค่าวัสดุและง่ายต่อการก่อสร้าง
o ข้อเสีย: ต้องใช้กับดินที่มีความแข็งแรงพอสมควร
2. ฟุตติ้งรวม (Combined Footing)
o ใช้ในกรณีที่เสาสองต้นอยู่ใกล้กันและไม่สามารถวางฟุตติ้งแยกได้
o ข้อดี: ช่วยกระจายน้ำหนักระหว่างเสาได้ดี
o ข้อเสีย: ต้องคำนวณอย่างละเอียดเพื่อให้สมดุล
3. ฟุตติ้งต่อเนื่อง (Strip Footing)
o ใช้กับผนังรับน้ำหนักหรือเสาเรียงกันเป็นแนวเดียว
o ข้อดี: เหมาะกับโครงสร้างผนังที่มีโหลดกระจาย
o ข้อเสีย: อาจไม่เหมาะกับดินอ่อนที่มีการทรุดตัวมาก
4. ฟุตติ้งแพ (Mat หรือ Raft Foundation)
o ฐานรากเป็นแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ รองรับน้ำหนักของอาคารทั้งหมด
o ข้อดี: ลดการทรุดตัวของอาคาร เนื่องจากกระจายแรงสม่ำเสมอ
o ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง ใช้วัสดุและแรงงานมาก
ข้อดีและข้อเสียของฟุตติ้ง
ข้อดี
เพิ่มเสถียรภาพให้โครงสร้าง
ป้องกันการทรุดตัวหรือการแตกร้าวของอาคาร
รองรับน้ำหนักได้ดี กระจายแรงไปยังดินได้เหมาะสม
สามารถปรับให้เหมาะกับสภาพดินและโครงสร้างของอาคาร
ข้อเสีย
หากออกแบบผิดพลาด อาจเกิดการแตกร้าวหรือทรุดตัว
ต้องมีการสำรวจสภาพดินอย่างละเอียดก่อนก่อสร้าง
บางประเภทของฟุตติ้งมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ฟุตติ้งแพ
การออกแบบฟุตติ้งที่ดี
วิเคราะห์ดิน: ต้องทดสอบคุณสมบัติของดินก่อนออกแบบ
คำนวณโครงสร้าง: ต้องมีการออกแบบให้รองรับน้ำหนักและแรงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ: ควรใช้คอนกรีตและเหล็กเสริมที่ได้มาตรฐาน
หลีกเลี่ยงดินที่ไม่มั่นคง: หากดินอ่อน ควรปรับปรุงดินหรือเลือกใช้ฟุตติ้งที่เหมาะสม
บทสรุป
ฟุตติ้งเป็นองค์ประกอบสำคัญของฐานรากที่ช่วยให้โครงสร้างมั่นคงและปลอดภัย การเลือกใช้ฟุตติ้งที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงประเภทของอาคาร สภาพดิน และงบประมาณ หากออกแบบและก่อสร้างถูกต้อง จะช่วยป้องกันปัญหาการทรุดตัวและเพิ่มอายุการใช้งานของอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จตุภูมิ
Comentários