ทริคสำหรับการเลือกบ้านให้กับน้องแมว
- S.W.
- 14 ก.ค.
- ยาว 1 นาที

ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่หันมาเลี้ยงแมวแบบระบบปิดกันมากขึ้น นั่นก็เพราะวิธีเลี้ยงแมวในบ้านหรือการเลี้ยงแบบระบบปิดมีความปลอดภัยต่อเจ้าเหมียวมากกว่า ช่วยลดการรบกวนเพื่อนบ้าน ลดการก่อความรำคาญ อีกทั้งยังทำให้เราสบายใจเพราะปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงด้วย แต่ใครที่กำลังอยากเริ่มเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านหรือที่พัก โดยเฉพาะการเลี้ยงน้องแมวสักตัวแล้วล่ะก็ ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง วันนี้เราจึงมีทริคสำหรับการเลือกบ้านให้กับน้องแมวลองมาดูกันได้เลย
ทำไมถึงจำเป็นต้องเลือกบ้านให้เหมาะสมกับน้องแมว
ตามธรรมชาติแล้วสิ่งสำคัญสำหรับแมวก็คือเรื่องของอาณาเขต เรียกได้ว่าถ้าจัดการเรื่องพื้นที่หรืออาณาเขตของแมวให้ตอบโจทย์ มีทุกสิ่งที่แมวต้องการให้เลือกสรร และยังสะอาดสะอ้านถูกใจแล้วล่ะก็ การที่แมวจะออกไปเที่ยวนอกบ้านนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าของแมวแทบจะไม่ต้องเป็นกังวลเลย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงแมวให้อยู่ในบ้าน หรือการเลี้ยงแมวในคอนโดนั้น ช่วยให้เราสังเกตเห็นความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับแมวได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และพาแมวไปรับการรักษาได้เร็ว ซึ่งการเลี้ยงแมวในบ้านให้มีสุขภาพดี มีความสุข ไม่ออกไปข้างนอกนั้น ส่งผลดีต่อตัวแมวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
• ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ หรือรถชน หรือการต่อสู้กับสัตว์อื่น
• ลดโอกาสการติดเชื้อหรือติดโรคจากแมวจรจัด
• ช่วยให้แมวมีอายุที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น
• ดูแลสุขภาพและพฤติกรรมของแมวได้มากขึ้น
7 ทริคง่าย ๆ สำหรับการเลือกบ้านให้กับน้องแมว
1. คำนึงถึงอุณหภูมิและความชื้นภายในบ้านที่เหมาะสมกับทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
แมวหรือสัตว์ประเภทต่างๆ มีลักษณะพิเศษตามสายพันธุ์ ที่ทนความร้อนในอากาศเมืองไทยได้ไม่เท่ากัน เพราะบางตัวมีขนเยอะต้องอยู่ในอากาศที่มีอุณหภูมิเย็นสบาย หากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่อับ อากาศไม่ถ่ายเทนานจนเกินไป อาจไม่ดีแน่ โดยช่วงอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ที่น้องแมวรู้สึกสบาย อยู่ที่ 20-29 °C และ 30-70%RH ในขณะที่ช่วงอุณหภูมิอากาศและความชื้นสัมพัทธ์ที่มนุษย์รู้สึกสบาย อยู่ที่ 22-27°C และ 20-75%RH เพราะฉะนั้นหากเราอยู่ในบ้านสบาย น้อมแมวก็ต้องอยู่สบายตามไปด้วย
2. บ้านสามารถป้องกันเสียงรบกวนที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงได้
ควรออกแบบบ้านที่มีการป้องกันเสียงรบกวน เช่น การเลือกผนังกันเสียง ประตูกันเสียง ปิดช่องว่างหรือส่วนที่เสียงอาจลอดผ่านได้ระหว่างห้อง หรือแม้แต่การติดตั้งฉนวนดูดซับเสียง เพื่อลดการได้รับเสียงรบกวนจากภายนอก รวมถึงลดเสียงรบกวนจากสัตว์เลี้ยงของเราเองด้วย
3. บ้านมีช่องเปิดที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
การออกแบบบ้านที่สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างรับลมจากภายนอก ให้ไหลเวียนเข้ามาภายในบ้าน จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้มาก นอกจากนี้สร้างบ้านที่มีพื้นที่สวนภายนอกให้น้องแมวและคนสามารถออกไปรับลม แสง และอากาศภายนอกบ้านได้บ้างก็จะทำให้ทั้งคนและสัตว์รู้สึกผ่อนคลาย
4. แบ่งโซนพื้นที่ใช้สอยของคนและสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจน
กำหนดว่าพื้นที่ไหนที่เราใช้อยู่ร่วมกับน้องแมว เช่น ห้องนั่งเล่น ระเบียงบ้าน และพื้นที่ใดที่ไม่ควรให้น้องแมวเข้าถึงได้ เช่น ห้องครัว ห้องนอน อาจใช้วิธีกั้นพื้นที่ตามช่วงเวลาที่ต้องการ เช่น กั้นด้วยประตู รั้ว หรือฉากกั้น ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้สะดวก
5. เลือกเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านโดยเน้นวัสดุผิวพื้นที่มีความทนทาน
เฟอร์นิเจอร์ควรเป็นวัสดุที่ทนต่อรอยขีดข่วนได้สูง มีความทนทานของผิวหน้าระดับ AC5 (Abrasion Classification) เป็นอย่างน้อย หรือมาตรฐานอื่นเทียบเท่า เลือกใช้วัสดุผิวพื้นที่ไม่ดูดซึมน้ำและมีรอยต่อวัสดุน้อย หรือเลือกใช้สีและสารเคลือบผิวผนังเพื่อป้องกันการสะสมสิ่งสกปรกและเชื้อโรค สามารถทำความสะอาดได้ง่าย หรือทำความสะอาดตัวเองได้ เลือกใช้วัสดุที่ไม่กักเก็บฝุ่นและขนสัตว์ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว รวมทั้งน้องแมวด้วย
6. ติดตั้งระบบไฟฟ้าในตำแหน่งที่ปลอดภัย
วางแผนสร้างบ้านสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการคำนึงถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่กิจกรรมของน้องแมว หากวางแผนติดตั้งระบบไฟฟ้าในตำแหน่งที่ไม่ดี หรืออยู่ใกล้กับพื้นที่ที่น้องแมวชอบอยู่ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายต่อชีวิตของน้อมแมว ผู้อยู่อาศัย รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ด้วย
7. เลือกวัสดุปูพื้นที่ทนทาน ทำความสะอาดง่าย
พื้นบ้านถือเป็นส่วนที่น้องแมวใช้ทำกิจกรรมและคลุกคลีสัมผัสมากที่สุด ดังนั้นวัสดุปูพื้นควรทนทานต่อการใช้งาน และทำความสะอาดง่าย วัสดุปูพื้นบ้านอาจเลือกเป็นพื้นกระเบื้อง เพราะเป็นรอยยาก ทนต่อการขีดข่วน มีความเย็นสะสม เหมาะสำหรับให้น้องแมวนอนเล่นกับพื้นในวันที่อากาศร้อน และควรเลี่ยงพวกพื้นหินอ่อนหรือพื้นหินธรรมชาติที่ไม่ได้เคลือบ เพราะน้ำลายของน้องแมวจะทำให้เกิดรอยคราบด่างได้ รวมถึงพื้นไม้ก็ต้องเลี่ยงพวกพื้นไม้ลามิเนตหรือไม้เนื้ออ่อน เพราะจะทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
จะเห็นได้ว่า หากเราออกแบบบ้านเพื่อน้องแมว ให้อยู่อาศัยไปด้วยกันกับคน จะช่วยให้น้องแมวรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น ส่งผลให้มีสุขภาพจิตและร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย รวมทั้งเจ้าของก็แฮปปี้ มีความสุข และปัจจุบันนี้มี บริษัทรับสร้างบ้าน ที่สามารถออกแบบบ้านเพื่อน้องแมวหลายแห่ง มีดีไซน์ที่แตกต่างแต่ลงตัว ถูกใจทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ก็จะทำให้การอยู่รวมกันไม่มีปัญหาอีกต่อไป
สุนิสา

ความคิดเห็น