top of page

การเตรียมตัว ก่อนและหลัง บริจาคโลหิต

  • S.W.
  • 3 ก.ย.
  • ยาว 1 นาที

ree

การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต

•อายุ  17- 70 ปี   ( 17 ปี มีหนังสือรับรองจากผู้ปกครอง )

•ผู้บริจาคโลหิตมีน้ำหนัก  45  กก.ขึ้นไป

•เตรียมตัวก่อนล่วงหน้า 4-7 วัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 5-8 ชม. ในคืนก่อนวันที่จะมาบริจาคโลหิต

•สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์   ไม่มีโรคประจำตัว  ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะใดๆ เช่น ยาแก้อักเสบ ควรหยุดยาอย่างน้อย 7 วันก่อนบริจาคโลหิต

•สตรีไม่อยู่ในระหว่างที่มีประจำเดือน , ตั้งครรภ์ , ให้นมบุตร , คลอดบุตรหรือแท้งบุตร ภายใน  6 เดือนที่ผ่านมา

•ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันสูง 6 ชั่วโมง และรับประทานอาหารประจำมื้อก่อนมาบริจาคโลหิต

•อุดฟัน ขูดหินปูน  เว้น 3 วัน / ถอนฟัน  รักษาราฟัน  เว้น 7 วัน

•ท้องเสีย  ท้องร่วง  เว้น  7 วัน

•เจาะหู  สัก  ฝังเข็ม  เว้น  4 เดือน

•งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย  24 ชั่วโมง ก่อนมาบริจาคโลหิต

•งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง  เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี

        

วันที่บริจาคโลหิต

•สวมใส่เสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกินไป สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้

•ดื่มน้ำก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที ประมาณ 3-4 แก้ว เท่ากับปริมาณโลหิตที่เสียไปในการบริจาค จะทำให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น  และช่วยลดภาวะการเป็นลมจากการบริจาคโลหิตได้

•เลือกแขนข้างที่เส้นโลหิตดำใหญ่ชัดเจน ผิวหนังบริเวณที่จะให้เจาะ ไม่มีผื่นคัน หรือรอยเขียวช้ำ ถ้าแพ้ยาทาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า

•ไม่ควรอมลูกอม  หรือ  เคี้ยวหมากฝรั่ง ขณะบริจาคโลหิต

•ขณะบริจาคควรบีบลูกยางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เลือดไหลได้สะดวก หากมีอาการ ผิดปกติ เช่น วิงเวียน มีอาการคล้ายจะเป็นลม ใจสั่น  อาการเจ็บที่ผิดปกติ อาการชา ต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที

•หลังบริจาคโลหิตต้องนอนพักบนเตียง 5-10 นาที ให้นอนพักสักครู่ก่อนลุกจากเตียง ซึ่งอาจทำให้เวียนศีรษะเป็นลมได้  แล้วจึงลุกไปดื่มน้ำ และรับประทานอาหารว่างที่จัดรับรองไว้

 

หลังบริจาคโลหิต

•ควรดื่มน้ำมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1 วัน

•นั่งพักจนแน่ใจว่าเป็นปกติ หากมีอาการเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หรือรู้สึกผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที

•หลีกเลี่ยงการขึ้นลงลิฟท์ บันไดเลื่อน อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนและเป็นลมได้

•ถ้ามีเลือดซึมออกมาจากรอยผ้าปิดแผล ให้ใช้นิ้วมือกดลงบนผ้าก๊อซ กดให้แน่นและยกแขนสูงไว้ประมาณ 3-5 นาที หากยังไม่หยุดซึมให้กลับมายังสถานที่บริจาคโลหิตเพื่อพบแพทย์หรือพยาบาล

•หลีกเลี่ยงการทำซาวน่า หรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ ไม่ใช้กำลังแขนที่เจาะบริจาค เช่น ยกของหนัก  เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการบริจาคโลหิต

•ควรพักผ่อนและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาทิ การเดินซื้อของ อยู่ในบริเวณที่แออัดหรืออากาศร้อนอบอ้าว เป็นต้น

•ผู้บริจาคโลหิตที่ทำงานปีนป่ายที่สูง หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ควรหยุดพัก 1 วัน

•หลังจากบริจาคโลหิต ให้รับประทานอาหารตามปกติ ไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยโลหิตที่บริจาค

•รับประทานธาตุเหล็กวันละ 1 เม็ด จนหมด ชดเชยเหล็กที่เสียไปจากการบริจาคโลหิต และป้องกันการขาดธาตุเหล็ก เพื่อให้สามารถบริจาคโลหิตได้อย่างสม่ำเสมอ

•การรับประทานธาตุเหล็กบำรุงโลหิต พร้อมกับเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง หรือน้ำมะเขือเทศ  จะทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี ยกเว้นชาเขียว เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็ก

 


ความคิดเห็น


bottom of page